Eye Cream

Dr.Ci:Labo : Special Enrich-Lift Eye

โอยยยย (มีการเปิดตัวแบบโหยหวน) วนมาถึง Eye Cream ที่ภาคภูมิใจนำเสนอ คิดไม่ผิดจริงๆ ที่สอยมาจากญี่ปุ่น จริงๆ แล้วเจ้า Eye Cream ตัวนี้ หมูเลงมานานแล้วล่ะ เพียงแต่เห็นส่วนผสมที่เค้าไม่ได้ใส่สารที่เน้น Skin Barrier แบบชัดๆ คือพวก Choresterol Ceramide Fatty Acid เข้ามาโต้งๆ เหมือนพวก Dr.Ci:Labo แบบกระปุกต่างๆ ก็เลยไม่สนใจไปพักหนึ่ง อย่างไรก็ตามพอมาอ่านสารของเค้าทีละตัวแล้วถึงกับต้องยืนปรบมือเลยครัช 👏👏👏

ปล. ใครสนใจประวัติที่มาของเค้าก็ไปอ่านจาก Review ตัว Dr.Ci:labo : VC 100 Essence Lotion ได้นะ คร่าวๆ คือนางเป็นหมอมีความเชี่ยวชาญในด้าน Dermatological Laser Surgery ครับ ที่เหลือไปอ่านกันต่อเอง ขอข้ามเลยและกัน ฮิ! (ฮิทำไม?) (ราคา 1,780บาท/15กรัม)

จะขอไม่พูดพร้ำทำเพลงไปมากกว่านี้ เรามาวิเคราะห์กันเลยดีกว่าว่า Eye Cream ตัวนี้มีอะไรแซ่บๆ บ้าง เจ้าครีมตัวนี้หมูมองสารของเค้าเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ นะครับ

1. สารที่ให้ความชุ่มชื้น เน้นการบำรุง Skin BarrierTHEOBROMA GRANDIFLORUM SEED BUTTER.jpg

  • ในส่วนนี้ก็จะมี Squalane ที่เป็นสารงานผิวใส่มาลำดับต้นๆ นอกจากนี้สารที่ให้ความชุ่มชื้นอยู่บนผิวได้ยาวนานหน่อย เค้าก็ได้ใช้ Seed Butter จากผลโกโก้นะครับ (รู้หรือไม่ว่าประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นของมันดีกว่า Shea Butter อีกนะ แถมยังเป็น Antioxidant ที่ดีอีกด้วยเพราะมันมี Flavonoid ที่ดีต่อผิว)

meadowfoam2

  • Meadowfoam Seed Oil ที่มีความสามารถในการให้ความชุ่มชื้น เพราะมี Fatty Acid ที่ช่วยบำรุง Skin Barrier ให้แข็งแรง ลดอัตราการสูญเสียน้ำของผิวไปได้ ตัวนี้ใช้กันใน Counter Brand เยอะนะ Sulwhasoo Time Treasure ก็มี
  • นอกจาก 2 ตัวด้านบนที่พูดถึงแล้ว ในเรื่องของการอัดความชุ่มขื้นในเชิงลึกเค้าก็ได้ใส่สาร Hyaluronic มาถึง 4 รูปแบบ และเป็นแบบที่มีโมเลกุลเล็กสามารถซึมลงผิวได้ลึกลงไปอีกมาด้วย ได้แก่ SODIUM HYALURONATE,HYDROXYPROPYLTRIMONIUM HYALURONATE,HYDROLYZED HYALURONIC ACID, SODIUM HYALURONATE CROSSPOLYMER

2. สารที่เข้าไปปรับ Texture และความเรียบเนียนของผิว (อัดแน่นมาก) : เน้นการลดริ้วรอย การป้องกันการเกิดริ้วรอย การสมานแผล และสารเหล่านี้บางตัวมันก็เป็น Antioxidant ไปในตัวด้วยนะครับ

  • สารสกัดจากใบข่าที่มีคุณสมบัติมากมาย ซึ่งมันจะมี Flavonoid ที่เป็นสารต้านมะเร็งผิวหนัง และลดอาการอักเสบได้
  • สารสกัดจากข้าวโอ๊ตที่ช่วยป้องกัน Fibroblast ตัวสร้าง Collagen และ Elastin
  • THIOCTIC ACID ที่น่าสนใจมากๆ คุณสมบัติล้นหลาม Pubmed มันมีการ Reseach มากมายว่าที่ความเข้มข้น 5% นั้นสามารถเพิ่มความเรียบเนียน และลดรอยเหี่ยวย่นให้แก่ผิวของเราได้
  • UBIQUINONE ตัวนี้ก็คือ Co Q-10 ครับมันเป็นสารที่มีมาช้านาน สรรพคุณหลักเลยคือเป็น Anti Aging และช่วยให้ผิวเราดูเด็กขึ้น
  • SOLUBLE PROTEOGLYCAN หรือที่เราเห็นทาง Flacora มาโฆษณามากมายว่ามันมาจากจมูกปลาแซลม่อน ตัวนี้แท้จริงแล้วก็มีงานวิจัยที่หาเจอใน Pubmed มากมายทั้งช่วยปกป้องผิวจาก UVB หรือเสริมความสามารถในการสมานแผล และยังเป็น Antioxidant อีกด้วย
  • ที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลยคือสารสกัดที่ได้จากเมล็ดของชบา (HIBISCUS ABELMOSCHUS) เจ้าตัวนี้ดีงามมากเพราะว่ามันสามารถป้องกันการเสื่อมสลายของ Growth Factor FGF-2 ซึ่งส่งผลให้เกิดการกระตุ้นการสังเคราะห์ sulphated GAGs ที่ช่วยให้ผิวเราไม่มีริ้วรอย

ความรู้สึกในภาพรวม และการใช้งาน

Dr.Ci Labo Special Enrich-Lift Eye 1.jpg

ทุกท่านครับ จะเห็นมาตลอดว่าที่ผ่านมาหมู Happy กับ Eye Cream ของ Algenist มากมันคือ Algenist : POWER Advanced Wrinkle Fighter 360° Eye Serum ที่มีสารต่างๆ ที่มีการศึกษาแบบ In House และเป็น Patent ที่จะช่วยในเรื่องของริ้วรอยได้ แต่พอมาอ่านสารของเจ้า Dr.Ci:Labo : Special Enrich-Lift Eye ตัวนี้กลับรู้สึกประทับใจมากกว่าหน่อย เพราะเค้าใส่สารแต่ละตัวที่เป็นการต่อยหมัดตรงๆ คือมีวิจัยมากมายรองรับให้แก่สารแต่ละตัวที่เค้าใส่มาเลย ไม่ต้องไปรอลุ้นว่าพวก Patent ที่ศึกษามานั้นจริงหรือไม่จริงอย่างไร ซึ่งสารแต่ละตัวที่ใส่มาก็จะเน้นไปในเรื่องของการปรับ Texture ของผิว และผิวรอบดวงตาเราครับ

เนื้อครีมของเค้าให้ความหนักและอยู่มากกว่าตัว Algenist นะครับ ก็ชอบเหมือนกันเพราะเรานอนห้องแอร์ ในการใช้งานนั้น ส่วนตัวหมูเองจะไม่ได้ใช้ส่วนปลายมาถูกๆ ที่ใต้ดวงตาโดยตรง โดยบีบมาใส่นิ้วนาง หรือนิ้วหลางแล้ว เอานิ้วมาวนรอบดวงตาเองเพราะรู้สึกว่าควบคุมน้ำหนักและเกลี่ยได้ทั่วถึงกว่ามากครับ

หลังจากที่ใช้มาได้ราวๆ 1 อาทิตย์กว่าๆ ก็ยังไม่ได้เห็นผลอะไรมากนักครับ (ซึ่งก็ไม่แปลกมะ) แต่ก็ใช้แล้วรู้สึกได้ว่าได้เลือกของดีๆ มาใช้เพื่อรักษาผิวของเราไปยาวๆ ครับ ส่วนเรื่องใต้ตาแพนด้าอะไรพวกนี้หมูว่ามันไม่น่าจะมี Eye Cream อะไรที่ช่วยท่านได้นะจากการใช้ Eye Cream ต่างๆ มา เพราะ

  1. ตาเราคล้ำมาจากเราเองที่ขยี้จนเส้นเลือดฝอยถูกทำลาย ซึ่งครีมคงไม่สามารถไปสมานหรือรักษาเส้นเลือดฝอยได้อยู่แล้ว
  2. คล้ำเพราะ DNA เกิดมาก็คล้ำอยู่แล้ว… อย่าให้บ้าถึงขนาดใส่ DNA/RNA เข้ามาในครีมเพื่อฟื้นฟูนะครับ เพ้อมาก ไร้สาระโคตร
  3. คล้ำเพราะนอนดึก… ไม่เคยเจอ Research ไหนที่บอกว่าสารใดสามารถช่วยให้เซลล์ผิวหลับขณะเราตื่นได้นะ 555+ ทุกอย่างในร่างกายมันก็ Avtive ไปถึงระดับ Cell ในขณะที่เราตื่นครับ อย่าเพ้อกันเนาะ

สรุปข้อดีข้อเสีย

ข้อดี

  1. ใช้สารหลากหลายที่ช่วยในเรื่องการฟื้นฟู Texture ของผิว ทำให้ได้วิธีการบำรุงที่หลากหลาย ที่น่าสนใจก็จะมี
    • ใช้สารที่บำรุงที่มีงานวิจัยรองรับในเรื่องของความสามารถในการลดริ้วรอย การเสริม Collagen เช่น สารสกัดจากข้าวโอ๊ต
    • SOLUBLE PROTEOGLYCAN ช่วยปกป้องผิวจาก UVB หรือเสริมความสามารถในการสมานแผล
    • สารสกัดจากเมล็ดของชบาที่ไปป้องกันการเสื่อมสลายของ Growth Factor มีความน่าสนใจ
    • THIOCTIC ACID ที่เพิ่มความเรียบเนียนให้ผิวมีวิจัยหลายแหล่งชัดเจน
  2. ให้สารให้ความชุ่มชื้นที่เลือกมาแล้วว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่า Shea Butter ทั่วๆ ไป แถมอัดพวก Hyaluronate มา 3 รูปแบบ
  3. ไม่มีน้ำหอม และสี
  4. Packaging ทึบแสง

ข้อเสีย

  1. ไม่มี

อย่าลืมไป Update ข่าวสารที่ Facebook : livelymoo


รีวิวละเอียด ขี้เกียจอ่าน ข้ามเลย

เนื้อสัมผัส

dr-ci-labo-special-enrich-lift-eye-2

เนื้อของ Product เป็นสีขาว มีความแน่นมากกว่ารุ่น Gel ทั่วไปของ Dr. Ci : Labo และไม่มีกลิ่นนะครับ กลิ่นจางมากๆ

dr-ci-labo-special-enrich-lift-eye-3

เกลี่ยครั้งแรกจะให้สัมผัสที่นุ่มลื่นไม่ฝืดครับ ไม่ต้องใช้แรงอะไรมาก เหมาะกับการใช้บริเวณใต้ดวงตา

dr-ci-labo-special-enrich-lift-eye-4

เมื่อเกลี่ยเสร็จแล้วก็จะมีเนื้อของ Product เคลือบอยู่เพื่อรักษาความชุ่มชื้นครับ ส่วนที่วาวๆ อยู่ใช้เวลาไม่นานมากก็จะหายไป แต่กรณีที่พึ่ง Mask หน้ามาใหม่ๆ ก็จะใช้เวลานานหน่อยครับ

รายละเอียดสาร

  1. WATER
  2. BUTYLENE GLYCOL
  3. DIGLYCERIN
  4. SQUALANE
    • ในผิวของคนเราจะมี Squalene อยู่ประมาณ 13% นะครับ เพียงแต่ว่ามันไม่คงตัว (unsaturated) เค้าจึงหันมาใช้ตัว Derivative ที่คงตัว (Saturated) แทน ซึ่งก็คือ Squalane ครับ
    • คุณสมบัติของมันก็มากมายมีการนำไปทดสอบกับทั้งสัตว์ คน (In Vivo) และหลอดทดลอง (In Vitro) ซึ่งก็พบว่ามันเป็นทั้ง anticancer, antioxidant, drug carrier, detoxifier, ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และ (แทรกตามรอยแตกของผิว) emollient ครับ
  5. THEOBROMA GRANDIFLORUM SEED BUTTER
    • THEOBROMA GRANDIFLORUM SEED BUTTER.jpg

      Credit : ekiacosmetiques

    • ก็ไขมันที่สกัดได้จากเมล็ดของต้นโกโก้นั้นเอง มันมีความสามารถในการซึมลึกลงสู่ผิวได้ดี และช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้ ซึ่งความสามารถในการรักษาความชุ่มชื้นองมันสูงกว่าพวก Shea Butter หรือ Lanolin เสียอีกครับ
    • นอกจากจะเป็น Excellent Emollient แล้วตัวของมันเองยังมี flavonoid ที่เป็นสาร Antioxidant อีกด้วย
  6. TRIETHYLHEXANOIN
  7. MYRISTYL ALCOHOL
    • เป็น Fatty Alcohol ใช้เป็น Emollient มักจะใช้เพื่อไม่ให้ส่วนน้ำและน้ำมันแตกตัวออกจากกันในครีม
  8. BEHENYL ALCOHOL
  9. DIMETHICONE
  10. BIS-PEG-18 METHYL ETHER DIMETHYL SILANE
  11. LIMNANTHES ALBA (MEADOWFOAM) SEED OIL
    • meadowfoam2
    • เจ้าตัวนี้ดีครับมี Fatty Acid ที่มีประโยชน์ต่อผิวมากมาย เสริม Skin Barrier แอบบอกว่ามันผสมอยู่ใน Sulwhasoo Time Treasure ด้วยล่ะ
    • มี Report ว่ามันช่วยดูดกลืน UVB รวมถึงมีความสามารถในการเป็น Antioxidant ซึ่งจากการทดลองกัยหนูก็ไม่พบข้อบ่งชี้ว่ามีความเป็นพิษแต่อย่างใด
  12. STEARIC ACID
  13. BATYL ALCOHOL,1,2-HEXANEDIOL
  14. CARNOSINE
    • เกิดจากกรดอะมิโน 2 ชนิดรวมกัน (alanine and histidine) บางทีจะเรียกว่า L-Carnosine มันจะทำหน้าที่เหมือน Antioxidant และ Anti-Inflammatory ตัวนี้ส่วนใหญ่จะเจอ Reseach ในเรื่องของการกินเสียมากกว่าครับว่ามันมีประโยชน์ต่อผิว ส่วนในเวบของป้าพอลล่าก็พูดในแนวเดียวกัน และพบว่ามี Research ที่พบว่ามันมีคุณสมบัติ antiglycation (glycation = การที่โมเลกุลของน้ำตาลไปทำปฎิกริยากับโปรตีน และทำให้โปรตีนเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ทำหน้าผิวเราเสียความยืดหยุ่น เช่นการเกิดภาวะหลอดเลือดแข็งตัว) ด้วย
  15. ALPINIA GALANGA LEAF EXTRACT
    • alpinia-galanga-rasna-3.jpg

      Credit : dravyagunatvpm.files.wordpress.com

    • มันคือใบของต้นข่าครับ ซึ่งข่าเองก็มีหลากหลายสายพันธุ์เหลือเกิน แต่จากการหาข้อมูลใน Pubmed ถึงกับเขียนว่า “Alpinia: the gold mine of future therapeutics” หรือแปลว่าขุมทรัพย์ของการบำบัดรักษาเลยทีเดียว ที่เค้าให้ชื่อนี้เป็นเพราะว่าสารสกัดที่ได้จากเจ้าข่านี้มี Flavonoid ที่เป็นสารต้านมะเร็งผิวหนัง และลดอาการอักเสบได้ด้วย
  16. GOLD
  17. PLATINUM POWDER
  18. XANTHAN GUM CROSSPOLYMER
  19. AVENA SATIVA (OAT) KERNEL EXTRACT
    • 800px-Avena_sativa_003

      Credit : wikimedia.org

    • เป็นทั้ง Antioxidant และ สารต้านการระคายเคือง มี Research ว่ามันสามารถช่วยป้องกัน fibroblasts (เซลล์ที่คอยผลิต collagen และ elastin) ได้ด้วย
  20. PRUNUS AMYGDALUS DULCIS (SWEET ALMOND) SEED EXTRACT
    • เป็น Emolient และยังช่วยฟื้นฟูผิว โดยมีส่วนประกอบคือ Fatty Acid ต่างๆ เช่น oleic acid และ linoleic acid
  21. SOLUBLE COLLAGEN
    • ในเวบป้าพอลล่าบอกว่ามันยังไม่มีวิจัยว่าการทาคอลลาเจน จะช่วยให้ผิวข้างใต้ได้ประโยชน์อะไรมากขึ้น ทั้งนี้คอลลาเจนเองมันเป็นตัวอุ้มน้ำที่ดี ซึ่งก็แปลว่าช่วยให้ผิวชั้นบนชุ่มชื้นขึ้นได้ครับ
  22. SUCCINOYL ATELOCOLLAGEN
    • เป็น Collagen ที่สกัดได้จากหนังสัตว์ กระดูกสัตว์ หรือจากครีบฉลาม แต่ก็อย่างว่าจะ Collagen อะไรก็ตามตอนนี้ยังไม่เจอวิจัยที่มันจะซึมลงผิวเข้าไปได้ หรือแม่จะซึมลงไปได้ก็ไม่รู้ว่ามันเข้าไปทำงานกับ Collagen ที่มีอยู่เดิมในผิวได้หรือไม่ ยังไม่เจอวิจัยใดๆรองรับครับ
    • ไปเจอผู้ขายสารเค้า Post รายละเอียดไว้ ใครสนใจก็เข้าไปอ่านกันครับ
  23. HYDROLYZED COLLAGEN
  24. SODIUM HYALURONATE
    • เจ้า HA เป็นตัวที่ทำหน้าที่หลักๆ ในการรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ชั้นผิวหนัง ซึ่งมันเป็น GAGs (Glycosaminoglycans) ชนิดหนึ่งที่พบในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน
    • GAGs คือ โปรตีนที่มีโครงสร้างเป็นเส้นใยของเมทริกซ์ภายนอกเซลล์ (Extracellular Matrix) ซึ่งฝังอยู่ในเจลซึ่งเป็นโพลีแซคคาไรด์ที่ประกอบด้วยหน่วยของไดแซคคาไรด์ที่ซ้ำกัน ซึ่งโมเลกุลหนึ่งในสองของไดแซคคาไรด์จะเป็น N-acetylglucosamine หรือN-acetylgalactosamine ซึ่งโมเลกุลนี้เป็น Acidic sugar (มีความเป็นกรด/มีประจุลบ)
    • GAGs เป็นคาร์โบไฮเดรตที่จำเป็นสำหรับร่างกาย กล่าวคือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน นอกจากนี้ GAG ยังมีคุณสมบัติดูดน้ำจึงทำให้เนื้อเยื่อสามารถทนทานต่อแรงกดดันได้
    • ไปเจอ Report ในส่วนของความสามารถในการซึมเข้าสู้ผิวของ HA พบว่า HA ที่มีน้ำหนัก 20-300 kDa นั้นจะสามารถซึมลงไปในผิวได้ แต่พวกที่มีน้ำหนัก 1000-1400 kDa จะไม่สามารถ
    • โดยทั่วไปแล้วขนาดโมเลกุลของ Hyaluronic  Acid อยู่ที่ประมาณ 3,000 nm ซึ่งช่องว่างของผิว (intercellular space) นั้นจะมีขนาดเพียง 15-50 nm เท่านั้น มันจึงไม่ได้สามารถซึมลงเข้าสู่ผิวได้นะครับ
    • SODIUM HYALURONATE เป็น HA ที่มีโมเลกุลเล็กกว่า HA ทั่วๆ ไป
    • ไปเจอการศึกษาของตัว Nano-Hyaluronic (ขนาดประมาณ 5 nm) เค้าเอาไปทดสอบกับผู้หญิงจำนวน 33 คน รวมแล้วมีค่าเฉลี่ยของอายุที่ 45.2 ปี เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ พบว่ามันสามารถช่วยลดความลึกของร่องริ้วรอยได้ 40% รวมถึงความชุ่มชื้นของผิว (skin hydration) ก็เพิ่มขึ้น 55%
  25. HYDROXYPROPYLTRIMONIUM HYALURONATE
    • เป็น Hylaluronic ที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก ถ้าเข้าใจไม่ผิดมันน่าจะถูกคิดค้นมาโดยบริษัทในญี่ปุ่นชื่อ Kewpie ครับ ซึ่งถ้าไปอ่านในรายละเอียดเค้าก็บอกว่าจากการวิจัยของเค้าเองเนี๊ย เจ้าสารตัวนี้มันชะช่วย Repair ผิวขาดน้ำ หรือผิวที่มี Skin Barrier ไม่แข็งแรงให้กลับมาเหมือนเดิมโดยมีประสิทธิภาพสูงกว่า SODIUM HYALURONATE ทั่วไป
  26. HYDROLYZED HYALURONIC ACID
    • เป็น HA โมเลกุลเล็กอีกรูปแบบหนึ่ง
  27. SODIUM HYALURONATE CROSSPOLYMER
  28. THIOCTIC ACID
    • ตัวนี้เป็น Antioxidant มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า Alpha Lipoic Acid ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถละลายได้ทั้งในน้ำและน้ำมัน
    • นอกจากนี้มันยังสามารถ Restore เจ้า Vitamin E ที่เสื่อมสภาพลงไปแล้วกลับขึ้นมาให้ Active ใหม่ได้อีกรอบ แถมยังเคยมีการวิจัยที่ตีพิมพ์ British Journal of Dermatology โดยการทาเจ้า THIOCTIC ACID ที่ 5 % กับผู้หญิงอายุ 33 ครึ่งหน้าโดยทาเช้าเย็น เป็นเวลา 12 อาทิตย์ พบว่ามันสามารถเพิ่มความเรีบลเนียนและลดริ้วรอยลงไปได้ถึง 50%
    • ยังมีการวิจัยกับผู้หญิง 34 คน ซึ่งมีอายุเฉลี่ย 54.4 ปี ซึ่งเค้าก็ได้แจกครีมที่ผสม THIOCTIC ACID ที่ 5 % แบบ Random (คือทั้งมีส่วนผสมและไม่มีส่วนผสม THIOCTIC ACID ที่ 5 %) ทดลองในระยะเวลา 12 อาทิตย์ ทาเช้าและเย็น ซึ่งผลที่ได้คือมันสามารถลดความหยากร้านของผิวได้ถึง 50.8%
    • สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่เองก็มีวิจัยมารองรับนะครับ โดยเค้าเอามา Research โดยการทดลองกับหนู (น่าสงสารน้องหนู) ซึ่งเค้าก็ค้นพบว่าการสูบบุหรี่ที่ส่งผลต่อผิวหนัง เช่นการสร้างอนุมูลอิสระ ทำให้โปรตีนในผิวเราเหลือง รวมถึงการทำให้รากผมเล็กลงนั้น เจ้า ALA สามารถรักษาเนื้อเยื่อของผิวเราได้ (แต่ก็คงไม่ 100% หรอกนะ)
    • ไปเจอการ Test ในการรักษาบาดแผลกับหนู ซึ่งพบว่ามันสามารถช่วยให้แผลของหนูหายได้รวดเร็วขึ้น
  29. UBIQUINONE
    • มันคือ Coenzyme Q10 ที่เป็น Anti-Aging ครับ
    • สามารถช่วยเพิ่มการเผาผลาญที่ลดลงเมื่อเรามีอายุมากขึ้น (หากการเผาผลาญพลังงานไม่ดีก็จะมีปริมาณของ ROS หรืออนุมูลอิสระมาก) รวมถึงการทำร้ายจากแสงแดดที่ทำให้ผิวดูอายุมากขึ้น เจ้า Q10 จึงทำให้ผิวดูเด็กลงครับ
  30. SOLUBLE PROTEOGLYCAN
    • ตัวนี้ต้องบอกว่ามันมีอยู่ในกระดูกอ่อนข้อต่อของคนเราครับ เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของกระดูกอ่อนข้อต่อร่วมกับคอลลาเจน และกรดไฮยาลูโรนิก เมื่อเราอายุมากขึ้นเจ้าตัวนี้ก็จะมีปริมาณลดลง ส่งผลให้ผิวพรรณของเราไม่ยืดหยุ่นครับ
    • ในส่วนของ Soluble Proteoglycan นั้นพอเอาไปหาข้อมูลใน Pubmed กับสื่อต่างๆ ก็เจอมากมายอย่างไม่น่าเชื่อเลยครับ เช่น
    • นอกจากนี้สารตัวนี้ยังอยู่ใน Fracora : Lift’est Proteoglycan Serum ซึ่งเค้าสกัดมาจากกระดูกอ่อนของส่วนปลายจมูกปลาแซลม่อนครับ
  31. ETHYLHEXYL PALMITATE
    • ให้ความชุ่มชื้นได้มาจาก Palm Oil เพื่อใช้แทน Silicone และเป็น Emollient
  32. HIBISCUS ABELMOSCHUS SEED EXTRACT
    • img_7290-manihot-hibiscus-2014.gif
    • มีงานวิจัยว่ามันสามารถป้องกันการเสื่อมสลายของ Growth Factor FGF-2 ซึ่งส่งผลให้เกิดการกระตุ้นการสังเคราะห์ sulphated GAGs ที่ช่วยให้ผิวเราไม่มีริ้วรอย
    • จากการศึกษาแบบ In Vitro พบว่ามันช่วยให้ริ้วรอยของเราลดลงได้จริงด้วยจ้า
    • สารตัวนี้ใช้อยู่ใน la prairie : White Caviar Illuminating Serum ด้วยนะครับ
  33. GLYCERYL STEARATE SE
    • เป็น Glycerin + Stearic Acid โดยคำว่า SE มาจาก “Self-Emulsifying” หน้าที่หลักๆ คือเป็น Thickeners, Emulsifiers และ Emollients (แทรกตามรอยแตกของผิวไม่ให้น้ำระเหยออกจากผิว)
  34. POLYGLYCERYL-10 STEARATE
  35. SILICA DIMETHYL SILYLATE
  36. BEHENETH-20
  37. XANTHAN GUM
  38. LECITHIN
  39. CAPRYLYL GLYCOL
  40. HEXYLENE GLYCOL
  41. HYDROXYETHYLCELLULOSE
  42. SODIUM BICARBONATE
  43. CITRIC ACID
  44. SODIUM CITRATE
  45. CAPRYLIC/CAPRIC TRIGLYCERIDE
  46. PENTYLENE GLYCOL
  47. ETHYLHEXYLGLYCERIN
  48. PHENOXYETHANOL

Ingredients : WATER,BUTYLENE GLYCOL,DIGLYCERIN,SQUALANE, THEOBROMA GRANDIFLORUM SEED BUTTER,TRIETHYLHEXANOIN, MYRISTYL ALCOHOL,BEHENYL ALCOHOL,DIMETHICONE, BIS-PEG-18 METHYL ETHER DIMETHYL SILANE, LIMNANTHES ALBA (MEADOWFOAM) SEED OIL,STEARIC ACID,BATYL ALCOHOL,1,2-HEXANEDIOL,CARNOSINE,ALPINIA GALANGA LEAF EXTRACT,GOLD,PLATINUM POWDER,XANTHAN GUM CROSSPOLYMER,AVENA SATIVA (OAT) KERNEL EXTRACT,PRUNUS AMYGDALUS DULCIS (SWEET ALMOND) SEED EXTRACT,SOLUBLE COLLAGEN, SUCCINOYL ATELOCOLLAGEN,HYDROLYZED COLLAGEN, SODIUM HYALURONATE,HYDROXYPROPYLTRIMONIUM HYALURONATE,HYDROLYZED HYALURONIC ACID,SODIUM HYALURONATE CROSSPOLYMER, THIOCTIC ACID,UBIQUINONE,SOLUBLE PROTEOGLYCAN, ETHYLHEXYL PALMITATE,HIBISCUS ABELMOSCHUS SEED EXTRACT,GLYCERYL STEARATE SE,POLYGLYCERYL-10 STEARATE,SILICA DIMETHYL SILYLATE,BEHENETH-20, XANTHAN GUM,LECITHIN,CAPRYLYL GLYCOL, HEXYLENE GLYCOL,HYDROXYETHYLCELLULOSE,SODIUM BICARBONATE,CITRIC ACID,SODIUM CITRATE,CAPRYLIC/CAPRIC TRIGLYCERIDE, PENTYLENE GLYCOL,ETHYLHEXYLGLYCERIN,PHENOXYETHANOL